Last updated: 10 เม.ย 2568 | 108 จำนวนผู้เข้าชม |
เปิดเผยความจริง: ครีมและเซรั่มทาหลุมสิว ช่วยได้จริงหรือหลอก?
หลุมสิว (Acne Scars) คือปัญหาผิวที่ทำให้ใครหลายคนกังวลใจและอยากหาวิธีรักษา แต่ในยุคที่โฆษณาครีมและเซรั่มต่างๆ เกลื่อนกลาด หลายคนอาจสงสัยว่าแค่ทาครีมจะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้จริงหรือไม่ บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัย พร้อมอธิบายถึงกลไกการเกิดหลุมสิวและวิธีการรักษาที่ได้ผลจริง
หลุมสิวเกิดขึ้นจากการตอบสนองของร่างกายต่อการอักเสบของสิว ซึ่งทำให้เกิดการเสียหายของเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง ส่งผลให้เกิดหลุมและรอยบนผิวหน้าได้ หลุมสิวมีลักษณะเป็นหลุมหรือรอยแผลเป็นที่ลึกและถาวร ส่วนใหญ่จะเกิดจากสิวอักเสบ สิวหัวช้าง หรือสิวที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ บริเวณเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม บางคนที่เป็นสิวกลับไม่เกิดหลุมสิว ซึ่งสามารถอธิบายได้จากปัจจัยทางพันธุกรรม การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน โครงสร้างผิวหนัง และกระบวนการสร้างคอลลาเจนของแต่ละบุคคล
หลุมสิวเกิดจากอะไร?
เมื่อสิวเกิดการอักเสบ แบคทีเรียและเซลล์อักเสบจะทำลายเนื้อเยื่อของผิวหนัง โดยเฉพาะชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ในขณะเดียวกันร่างกายพยายามซ่อมแซมส่วนที่เสียหายด้วยการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ แต่กระบวนการซ่อมแซมนี้อาจไม่เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผิวบริเวณนั้นยุบลงและกลายเป็นหลุมถาวร เนื้อเยื่อใหม่ที่สร้างขึ้นมาไม่สมดุลกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการอักเสบ
กระบวนการเกิดหลุมสิว มีรายละเอียดดังนี้:
1. การอักเสบจากสิว: สิวที่อักเสบลึกและเรื้อรัง เช่น สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ ทำให้เกิดการอักเสบที่กระจายออกไป ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้างและลุกลามไปถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดหลุมสิว
2. กระบวนการสมานแผลผิดปกติ: เมื่อผิวหนังพยายามซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย การสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่บางครั้งไม่สมบูรณ์ ทำให้ผิวดูเป็นหลุมหรือยุบลง
3. คอลลาเจนที่สร้างไม่เพียงพอหรือไม่สม่ำเสมอ: ในกระบวนการซ่อมแซม หากร่างกายสร้างคอลลาเจนในปริมาณที่น้อยหรือสร้างไม่เต็มที่ ผลลัพธ์จะเป็นหลุมสิวที่ลึกและชัดเจน
ความจริงเกี่ยวกับครีมและเซรั่มทาหลุมสิว
ครีมและเซรั่มที่อ้างว่าสามารถรักษาหลุมสิวได้อย่างสมบูรณ์นั้นมักเป็นโฆษณาที่เกินจริง เหตุผลที่การแค่ทาครีมไม่ได้ผลเพราะ:
1. หลุมสิวอยู่ในชั้นผิวลึก: หลุมสิวเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ (Dermis) ในขณะที่ครีมหรือเซรั่มส่วนใหญ่ทำงานเพียงแค่ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
2. คอลลาเจนไม่สามารถซึมผ่านผิวหนัง: ครีมที่อ้างว่ามีคอลลาเจนไม่สามารถแทรกซึมลึกไปถึงชั้นหนังแท้เพื่อเติมเต็มหลุมสิวได้
3. การซ่อมแซมหลุมสิวต้องกระตุ้นกลไกในร่างกาย: เช่น การสร้างคอลลาเจนใหม่หรือการสลายพังผืด ซึ่งการแค่ทาครีมไม่สามารถกระตุ้นกระบวนการเหล่านี้ได้
เซรั่มหรือครีมรักษาหลุมสิว ช่วยได้จริงไหม?
คำตอบคือ: ช่วยได้บางระดับ แต่ไม่ใช่คำตอบหลักของปัญหาหลุมสิว
หลุมสิวเกิดจาก การทำลายโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคอลลาเจน อีลาสติน และไฟโบรบลาสต์ เมื่อเกิดการอักเสบรุนแรงจากสิวในอดีต ร่างกายอาจซ่อมแซมได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการยุบตัวเป็น “หลุม” ลงไปในผิว
เซรั่มหรือครีมมีบทบาทอย่างไร?
1. ช่วยบำรุงผิวโดยรวม
เซรั่มหรือครีมที่มีสารออกฤทธิ์ เช่น วิตามินซี เรตินอล เปปไทด์ กรดไฮยาลูโรนิก อาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เล็กน้อย ทำให้ผิวดูเนียนขึ้นในภาพรวม
2. ช่วยลดรอยแดง รอยดำ
บางสูตรช่วยเรื่องรอยหลังสิว เช่น Hyperpigmentation หรือ PIH ซึ่งไม่ใช่หลุม แต่ทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอ
3. ช่วยเตรียมสภาพผิวก่อนทำหัตถการ
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง อาจช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น พร้อมรับการรักษาแบบล้ำลึก เช่น เลเซอร์ หรือ Subcision
แต่สิ่งที่เซรั่มและครีม "ไม่สามารถทำได้" คือ...
ซ่อมแซมรอยหลุมที่ลงลึกถึงโครงสร้างผิวแท้ การกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระดับลึก จำเป็นต้องใช้พลังงานหรือกระบวนการที่ลงถึงชั้นหนังแท้
บทสรุป
ครีมและเซรั่มทาหลุมสิวอาจช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มและลดรอยแดงได้ในระดับผิวตื้น แต่การจะรักษาหลุมสิวอย่างแท้จริงจำเป็นต้องใช้เทคนิคทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์หรือ Subcision ดังนั้น หากคุณกำลังเผชิญปัญหาหลุมสิว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวคุณและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Realclinic ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาผิวหน้าอย่างแท้จริง Realclinic คือคำตอบของคุณ เราพร้อมช่วยคุณฟื้นฟูความมั่นใจและปรับผิวให้เรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยเทคนิคเฉพาะ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
โปรแกรมเด่นที่ Realclinic สำหรับหลุมสิว: 1. โปรแกรม Real Scar Synergy: คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง
คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
2. โปรแกรม Real Juvgen คือการรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) การรักษานี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว
คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
3. เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว
17 ก.พ. 2568