Real Juvgen คือ โปรแกรมการรักษาหลุมสิว ที่คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก ดร.จิน ศัลยแพทย์ชาวเกาหลี เทคนิคนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว
การรักษาด้วย Juvgen สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนจากการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง แพทย์ผู้พัฒนาเทคนิคนี้ระบุว่า ผลลัพธ์ที่ได้คือการปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างถาวร ด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาหลุมสิวที่ได้ผลรวดเร็วและยั่งยืน ด้วยเทคนิคการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวด้วยตนเอง ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนและรอยแผลเป็นหลุมสิวตื้นขึ้นในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากปัญหาแผลเป็นหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
*ข้อควรระวัง:* ควรเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความชำนาญในการรักษาด้วยเทคนิค JUVGEN ที่ผ่านการรับรองจาก ดร.จิน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลักการทำงานของ Juvgen
จูวีเจน (JUVGEN) เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวที่อาศัยกลไกสามประการ ได้แก่ ทางเคมี (chemical) ทางชีวภาพ (biological) และทางกายภาพ (physical) โดยใช้สารประกอบหลักคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกรดไฮยาลูโรนิก (HA)อนุภาคเล็ก การทำงานของเทคนิคนี้เริ่มจากการฉีดสารละลายเข้าสู่ชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิว ซึ่งเป็นบริเวณที่เนื้อเยื่อผิวถูกทำลายและยุบตัวลง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของหลุมสิวในทันที พร้อมๆกับที่กรดไฮยาลูโรนิก (HA) อนุภาคเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนปริมาณมาก นอกจากนี้กระบวนการฉีดสารละลายยังทำหน้าที่เสมือนการตัดพังผืดอย่างอ่อนโยน ช่วยให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน
JUVGEN แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวทั่วไปอย่างไร
การรักษาหลุมสิวส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น มักจะเน้นไปที่วิธีการทำเลเซอร์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยไม่ซับซ้อน แต่มีข้อจำกัดคือจำเป็นต้องทำซ้ำต่อเนื่องหลายครั้ง โดยในแต่ละครั้งหลังทำก็จะมีสะเก็ดแผลที่หน้าตามมา จึงจำเป็นต้องมีการพักหน้าห้ามออกแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ อีกทั้งช่วงที่แผลสะเก็ดกำลังหลุดลอกออกก็จะแต่งหน้าออกไปทำงานได้ลำบาก ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่มักหมดหวังและท้อใจกันไปก่อนที่จะครบคอร์สการรักษา
JUVGEN เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวที่จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Energy Based Acne Scar Revision ใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก เป็นอีกทางเลือกการรักษาที่เห็นชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากเป็นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิค JUVGEN มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าวิธีทั่วไป เนื่องจากเป็นเทคนิคพิเศษที่ต้องใช้ตัวยาและเครื่องมือเฉพาะซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ชัดเจนนอกจากจะต้องใช้ตัวยาเครื่องมือที่เหมาะสมได้มาตฐานผ่านการรับรองจาก ดร.จิน เซฮุนแล้ว ยังต้องอาศัยฝีมือความชำนาญของแพทย์ผู้ทำเป็นหลักสำคัญอีกด้วย
**ที่เรียลคลินิก คุณหมอรมิตาได้รับการถ่ายทอดเทคนิควิธีการรักษาด้วย JUVGEN นี้ จาก ดร.จินเซฮุน ศัลยแพทย์ผู้คิดค้นเทคนิคนี้โดยตรง อีกทั้งคุณหมอรมิตายังมีความชำนาญในด้านการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีการใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลักอยู่แล้วเป็นทุนเดิม และเป็นแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ที่มีความถนัดในการฉีดเติมเต็มหลุมสิวและบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ อาศัยความละเอียดความชำนาญเฉพาะตัวเป็นอย่างมากJuvgen เหมาะกับใคร?
ระยะเวลาการพักฟื้นหลังทำ Juvgen
ข้อควรระวังและการเตรียมตัวก่อนทำ Juvgen
เพื่อให้การรักษาหลุมสิวด้วย Juvgen ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรพิจารณาข้อควรระวังและเตรียมตัวตามขั้นตอนดังนี้:
ทำไมต้องทำโปรแกรม Juvgen กับ Dr.Ramita Real Clinic
1. ผลลัพธ์ที่ได้มาตรฐานเดียวกับการทำโดย Dr. Jin
Juvgen ไม่ใช่เครื่องเลเซอร์ที่สามารถกดปุ่มแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ดั่งใจ แต่มันคือหัตถการที่ต้องอาศัย ทักษะ ความชำนาญ และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างผิว รวมถึงการประเมินหลุมสิวอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการรักษาด้วย Juvgen ต้องอาศํยความสามารถเฉพาะตัวในการทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และแพทย์ที่จะทำการรักษาด้วย Juvgen ได้นั้น ต้องผ่านการฝึกอบรมและรับรองจาก Acedemy ของ Dr. Jin เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแพทย์ผู้นั้นสามารถรักษาได้ตามมาตรฐานเดียวกับที่ Dr. Jin กำหนดไว้นั่นเอง
*ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การใช้ Juvgen เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์ผู้ทำ แม้ว่าใช้ Juvgen เหมือนกัน แต่ทักษะและประสบการณ์ของแพทย์จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ แตกต่างกันอย่างชัดเจน
2. ความสามารถของ พญ.รมิตา
พญ.รมิตา มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และหลงไหลในการรักษาหลุมสิวด้วยหัตถการเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยโปรแกรม Real Scar Synergy (RSS) ที่ พญ. รมิตา คิดค้นและพัฒนาเอง ก็เป็นการใช้หัตถการ ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูหลุมสิวเช่นเดียวกับ Juvgen ร่วมกับฝีมือความละเอียดเฉพาะตัว ทำให้ พญ. รมิตา มีความคุ้นเคยกับเทคนิคการรักษาที่ใช้เครื่องมือและหัตถการในเชิงลึก พร้อมประสบการณ์ที่ยาวนานและมีเทคนิคการรักษาที่เหนือกว่า มีผลงานการแก้ไขรอยแผลเป็นหลุมสิวให้คนไข้ดีขึ้นได้จริงเป็นจำนวนมาก จึงมั่นใจได้ว่าการรักษาด้วย Juvgen ภายใต้การดูแลของพญ. รมิตาจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
3. การดูแลอย่างมืออาชีพละเอียดและตรงจุด
4. ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและปลอดภัย
ที่ Real Clinic เรามีโปรแกรมครบวงจรในการรักษาหลุมสิว ตั้งแต่การเริ่มต้นด้วย Juvgen ไปจนถึงโปรแกรมเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เช่น Real Scar Synergy ,Real Skin Quality, ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว รวมไปถึงยังมี เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว, เลเซอร์กระชับรูขุมขน การมีโปรแกรมที่หลากหลาย และสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้รับห็นผลอย่างชัดเจน รวมถึงฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดีในระยะยาว.
5. การรักษาที่มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่การขาย
การรักษาด้วย Juvgen ภายใต้การดูแลของ พญ. รมิตา จึงไม่เพียงแค่การให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลในระยะยาว และการให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและจริงใจ ผลลัพธ์ที่ได้จึงได้มาตรฐานเดียวกับการทำโดย Dr. Jin ตรงตามแนวทางของต้นตำรับอย่างแท้จริง
Q: JUVGEN ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน? ให้ผลถาวรหรือไม่?
A: โดยหลักการพื้นฐานแล้วและงานวิจัยแล้ว โปรแกรม JUVGEN เป็นนวัตกรรมที่ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง ในทางการแพทย์จึงถือเป็นผลลัพธ์ที่ถาวร แต่หากมองในแง่ของการมีปัจจัยด้าน Aging process ตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์แล้ว คอลลาเจนที่ผิวคนเราสร้างขึ้นมา ก็ไม่ได้มีอยู่ถาวรแต่ก็จะเสื่อมลงตามวัย มีการลดลงเรื่อยๆ (ประมาณครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ทุกๆ 15 ปี) ร่วมกับการสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างที่พยุงใบหน้า ทั้งชั้นไขมัน และชั้นกระดูกเมื่อเวลาผ่านไป หากมองในแง่นี้ด้วยก็ควรจะถือว่าเป็นผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร เพราะเมื่อทุกชั้นผิวเกิดการเสื่อมสภาพลงตามวัย ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวจากคอลลาเจนที่เคยดีขึ้น ก็มักจะร่วงโรยตามวัยด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของ JUVGEN ที่ทำให้เป็นที่นิยมและทำให้ดร.จิน แพทย์ผู้คิดค้นวิธีนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง ก็คือผลลัพธ์การรักษาที่เห็นได้ทันทีและมีรายงานเคสผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานกว่า 5-10 ปีขึ้นไป เนื่องจากกระบวนการทำงานของ JUVGEN นั้นไม่ได้อาศัยการเติมสารเติมเต็มแบบการฉีดฟิลเลอร์ แต่เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง จากการทำปฏิกิริยาของสารสำคัญสองชนิดคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็ก คอลลาเจนที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นเนื้อเยื่อธรรมชาติที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่การเติมเต็มชั่วคราวแบบฟิลเลอร์ที่มักจะคงอยู่ได้เพียงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะค่อยๆสลายตัวไป
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สุขภาพ พื้นฐานผิวเดิม ลักษณะของหลุมสิว กรรมพันธุ์ และการดูแลผิวพรรณ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมในการใช้ JUVGEN และเพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณหลังการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืนที่สุดค่ะ
Q : JUVGEN ต้องทำบ่อยไหม? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A : ด้วยเทคนิคการรักษาหลุมสิวแบบใหม่นี้ คนไข้จะเห็นผลได้ทันทีหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว อีกจุดเด่นสำคัญคือความถาวรของผลลัพธ์ เนื่องจากเทคนิคนี้ไม่ใช่การเติมเต็มแบบชั่วคราว แต่เป็นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวด้วยตัวเอง จึงกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้หลุมสิวค่อยๆตื้นขึ้นอย่างยาวนาน แตกต่างจากวิธีการอื่นๆที่อาจต้องรักษาซ้ำหลายครั้ง และผลลัพธ์อาจไม่คงอยู่ถาวร อย่างไรก็ตามแม้เทคนิคนี้จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ทันทีและให้ผลอย่างถาวร แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว สภาพผิว และปัจจัยอื่นๆ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ
Q : JUVGEN ปลอดภัยแค่ไหน?
A : เทคนิคการรักษานี้ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดในขณะทำการรักษา ความปลอดภัยนี้ได้รับการรับรองในระดับสากลและมีงานวิจัยรองรับตีพิมพ์ลงวารสารของวงการศัลยแพทย์ระดับโลก โดยมีการจดและยื่นจดสิทธิบัตรแล้วกว่า 40 ฉบับ ในหลายประเทศชั้นนำ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และในประเทศไทยเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับในระดับ เป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยที่ผู้เข้ารับการรักษาสามารถไว้วางใจได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและรับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
Q : JUVGEN แก้ไขปัญหาผิวหน้าอย่างอื่นได้อีกไหม?
A : JUVGEN ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ไขปัญหารอยแผลเป็น และริ้วรอยร่องลึกที่ผิวหน้าอื่นๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากกลไกการทำงานที่เข้าถึงชั้นผิวหนังแท้ได้อย่างละเอียด JUVGEN จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยเนื้อเยื่อใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การรักษาร่องน้ำหมาก ริ้วรอยร่องลึก รอยแผลเป็นชนิดผิวยุบตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายครั้งแม้การฉีด Bo filler ทำเลเซอร์ หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดดึงหน้า ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากวิธีการเหล่านั้นมักจะสามารถเข้าไปแก้ไขได้เพียงแค่บางชั้นผิวเท่านั้น แต่JUVGEN แตกต่างออกไปด้วยเทคนิคการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคลงสู่ชั้นหนังแท้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้แผลเป็นร่องลึกเหล่านั้นดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาผิว และปัจจัยอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม และรับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
* ทุกรีวิวของคุณหมอได้รับการยินยอมจากคนไข้ให้นำมาเผยแพร่
* ทุกรีวิวเป็นคนไข้ทางคลินิกจริง
* *ผลจากการรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย